วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

รู้จักกับ SOPA และ PIPA กฎหมายที่วงการออนไลน์ต่อต้าน!

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก บทความเรื่อง “รู้จักกับ SOPA กันซักหน่อยไหม?“   โดย คุณคงเดช กี่สุขพันธ์ (@kafaak) จากบล๊อก นานาสาระกับนายกาฝาก ค่ะ

SOPA กับ PIPA นี่คืออะไร?

เดือดร้อนกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่หลายๆ คนอาจจยังงงว่า แล้วเจ้า SOPA นี่คืออะไร  … SOPA นั้นมาจาก Stop Online Piracy Act หรือ พ.ร.บ. หยุดการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ (ถ้าแปลเป็นไทยแบบหยาบๆ อ่ะนะ)
เจ้านี่คือ พ.ร.บ. ที่เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจสื่อในสหรัฐพยายามเข็นให้ออกมาให้ได้ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนก็มี MPAA (Motion Picture Association of America), บรรดาพวกอุตสาหกรรมเพลง และที่สำคัญที่สุดก็คือ หอการค้าสหรัฐ (U.S. Chamber of Commerce) ด้วย … เหตุผลคือ ธุรกิจพวกนี้สูญเสียรายได้จากการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือเพลง เลยทำให้ต้องล็อบบี้กันอย่างเต็มพิกัด
ข้อมูลจาก Politico.com ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มทุกทุนอย่างแรงในการสนับสนุนเงินทุนเพื่อล็อบบี่ให้ พ.ร.บ. นี้แจ้งเกิดได้ โดยในปี พ.ศ. 2553 จัดเต็มไป 185.5 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว และปี พ.ศ. 2554 นี่ก็จัดไปอีก 94 ล้านเหรียญสหรัฐ น้อยลง แต่ถ้าเทียบกับงบล็อบบี้ฝั่งบริษัทด้านเทคโนโลยีแล้ว ทิ้งกันแบบไม่ติดฝุ่นเลยทีเดียวเชียวล่ะ (ดูกราฟด้านบน)
ส่วน PIPA นั้นมาจาก Protect IP Act หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาครับ ซึ่งเหมือนกับเป็นลูกพี่ลูกน้องของ SOPA นี่แหละ เจ้า พ.ร.บ. นี้แรงเอาการครับ เพราะมีเนื้อหาที่บอกว่า ให้ผู้ให้บริการนั้นดำเนินการลบหรือระงับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ละเมิด พ.ร.บ.
ความแตกต่างของ SOPA กับ PIPA ก็คือ ในขณะที่ PIPA นั้นจะมีเป้าหมายไปที่ตัวผู้ให้บริการ DNS, พวกบริษัทไฟแนนซ์ และพวกเครือข่ายโฆษณาต่างๆ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ว่า SOPA นั้นกินวงกว้างกว่า โดยให้อัยการสหรัฐสามารถขอให้ศาลังคับคดี เพื่อให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) บล็อกไม่ให้เข้าถึงเว็บไซต์นั้นๆ ได้ แถมต้องทำโดยไวด้วย แบบว่าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือภายใน 5 วันหลังได้คำสั่งศาล หรือภายในเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งตรงนี้ระบุไว้ในมาตราที่ 102
A service provider shall take technically feasible and reasonable measures designed to prevent access by its subscribers located within the United States to the foreign infringing site (or portion thereof) that is subject to the order… Such actions shall be taken as expeditiously as possible, but in any case within five days after being served with a copy of the order, or within such time as the court may order.

คำกล่าวอ้างของผู้สนับสนุน SOPA

จะเข็น พ.ร.บ. อะไรให้ออกมาได้ ก็ต้องมีเหตุผลสนับสนุนกันหน่อย ทางหอการค้าสหรัฐนั้นให้เหตุผล ซึ่งเขียนเป็นจดหมายถึงกอง บ.ก. ของหนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า “บรรดาเว็บไซต์เถื่อนได้ขโมยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของอเมริกาไป และดึงดูดให้มีคนเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เหล่านั้นมากกว่า 5 หมื่น 3 พันล้านครั้งต่อปี และส่งผลกระทบต่อแรงงานสหรัฐมากกว่า 19 ล้านตำแหน่ง” 2 … แต่ถ้าถามแวดวงผู้ต่อต้าน SOPA คงจะได้คำตอบว่า เหตุผลจริงๆ ก็คือรายได้ที่ลดลงนั่นแล ข้อมูลจาก IFPI (Internation Federation of the Phonotgrapic Industry) เผยว่า ในขณะที่ตลาดเพลงดิจิตอลเติบโตในช่วงปี พ.ศ. 2547 – 2553 แต่ทว่ารายได้ของอุตสาหกรรมนี้กลับลดลง 31% อันเป็นผลมาจากการละเมิดลิขสิทธิ์นั่นเอง 3

ความคลุมเครือของ SOPA

การออกโรงคัดค้าน SOPA อย่างสุดฤทธิ์ของชุนชนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ต่างๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากความเชื่อในอิสระเสรีบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่ว่าไม่ควรจะมีอะไรมากีดขวางสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต อีกส่วนหนึ่งก็มาจากความรู้สึกว่าจะถูกตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา เพราะศาลสามารถมีคำสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไปตรวจสอบทราฟฟิค หรือการวิ่งของข้อมูลของลูกค้า แล้วทำการบล็อกเว็บไซต์ที่ต้องสงสัยว่าจะละเมิดลิขสิทธิ์ได้ … อันนี้เข้าข่ายประเด็น Sniffer ที่เคยเป็นประเด็นเผ็ดร้อนในประเทศไทย เมื่อราๆ ต้นปี พ.ศ. 2553 4 มาแล้ว
แต่อีกส่วนหนึ่ง ก็มาจากความคลุมเครือของ พ.ร.บ. นี้นี่แหละครับ เพราะคำว่าบล็อกเว็บเนี่ย มันมีได้หลายระดับ ตั้งแต่บล็อกทั้งหมดเลย หรือบล็อกเฉพาะบางส่วนของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ที่สำคัญคือ อุตส่าห์ลงทุนบล็อกขนาดนี้แล้ว มันจะแก้ปัญหาให้หมดจดไปได้จริงหรือไม่ ก็ยังเป็นข้อกังขาอยู่ เพราะว่าแม้จะบล็อก URL ของเว็บได้ เว็บไซต์พวกนี้ก็สามารถจดทะเบียนโดเมนใหม่ได้ในพริบตา และภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็พร้อมใช้งานแน่นอน หรือจะบล็อก IP Address ไปเลย ก็ไม่ได้ผลชะงักเท่าใดนัก เพราะของพวกนี้ก็สามารถขอใหม่ได้เช่นเดียวกัน และความพยายามในการทำแบบนี้ก็ส่งผลให้ IP Address นั้นๆ ใช้การไม่ได้ เป็นการสิ้นเปลืองไปอีก

ใครที่ร่วมต่อต้าน SOPA บ้าง?

บอกเลยว่าเยอะครับ เพราะว่าชุมชนออนไลน์เขาไม่ชอบให้ใครมาปิดกั้นเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลกัน อยู่แล้ว อย่าง Google, Facebook, Twitter, Zynga, eBay, Mozilla, Yahoo!, AOL และ LinkedIn ต่างก็เขียนจดหมายถึงพวก ส.ว. และ ส.ส. ของสหรัฐแย้งเรื่อง พ.ร.บ. นี้
แต่รายชื่อเต็มๆ อัพเดตล่าสุด แนะนำว่าให้ดูจากเว็บ net-coalition.com  จะเห็นว่ามีทั้งบริษัทห้างร้าน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ กลุ่มองค์กร ภาคธุรกิจ เว็บข่าวเว็บบริการ องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน บุคคลต่างๆ มากมายเลยทีเดียว
ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับว่า SOPA จะไปรอดหรือไม่อย่างไร
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1. http://www.politico.com/news/stories/1111/68448.html
2. http://news.cnet.com/8301-31921_3-57329001-281/how-sopa-would-affect-you-faq/
3. http://www.ifpi.org/content/library/DMR2011.pdf
4. http://news.hunsa.com/detail.php?id=20892

อ่านเพิ่มเติมที่
บทความจากคุณ @kafaak 

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

บก. ปอศ. แถลงผลตรวจจับซอฟต์แวร์เถื่อนปี2554 พร้อมผลักดันไทยรณรงค์ลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

บก. ปอศ. แถลงผลตรวจจับซอฟต์แวร์เถื่อนปี2554 พร้อมผลักดันไทยรณรงค์ลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์


กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ.) ประกาศความพร้อมในการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในปีนี้อย่างต่อ เนื่อง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำของภูมิภาคในด้านการลด อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เผยปี 2554 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าตรวจค้นองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เพิ่มขึ้น แม้จะมีการเว้นช่วงในภาวะน้ำท่วม
ใน ปีที่ผ่านมา บก. ปอศ. ได้ดำเนินคดีกับองค์กรธุรกิจที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนเครื่องพีซี ทั้งหมด 184 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 538.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14  เมื่อเทียบกับปี 2553  หากดูจากกราฟสถิติการตรวจจับละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เปรียบเทียบระหว่างปี 2551-2554 จะเห็นได้ว่า มูลค่าความเสียหายในปีที่แล้วยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยแต่ละแห่งมีมูลค่าสินทรัพย์โดยรวมอย่างน้อย 100 ล้านบาท และมีองค์กรธุรกิจ 15 แห่งจากทั้งหมด มีรายได้ต่อปีมากกว่า 1,000 ล้านบาท มีองค์กรธุรกิจสัญชาติอเมริกันสองแห่งที่ถูกตรวจค้น และพบว่ามีมูลค่าการละเมิดลิขสิทธิซอฟต์แวร์ถึง 1.61 ล้านบาท
สำหรับ สถิติการตรวจค้นองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เมื่อปีที่ผ่านมา จะตรวจค้นที่กิจการด้านการผลิตสินค้า และกิจการด้านก่อสร้างและออกแบบ  โดยสาเหตุส่วนใหญ่ของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เพื่อหวังกำไรสูง ต้นทุนต่ำ

ที่มา: BSA-International Data Corporation (IDC) 2010 Global Software Piracy Study

ด้วยการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์โดย บก.ปอศ. กับการรณรงค์ให้องค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์แท้ ส่งผลให้ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่สองของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในด้านอัตราการลดลงของการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน จากสถิติข้อมูลจาก BSA เมื่อปี 2010 โดยเทียบตั้งแต่ 2549-2553 พบว่าอัตราการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในไทยลดน้อยลงร้อยละ 2 ต่อปี  เป็นรองประเทศฮ่องกงเพียง 1 จุดเท่านั้น  บก.ปอศ.  ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของภูมิภาค ในการลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในปีนี้
พ.ต.อ. ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ (บก. ปกศ) ได้แนะนำ องค์กรภาคธุรกิจ ช่วยกันรณรงค์ให้ใช้ซอฟต์แวร์แท้ ถูกต้องตามกฎหมาย  เพราะไม่เพียงแต่จะปกป้ององค์กรธุรกิจจากการถูกดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ซอฟต์แวร์แล้ว แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย  สร้างโอกาสในการจ้างงาน  สร้างโอกาสทางธุรกิจ  ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีและนวัตกรรมให้เติบโตขึ้น  เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศอีกด้วย

แหล่งที่มา it24hr By  ปานระพี


ระวังให้ดีน่ะครับใครที่ใช่ซอฟท์แวร์เถื่อนกัน...หา ฟรีซอฟท์แวร์มาใช้กันดีกว่า..อิอิอิ

ultrahack webmaster

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

ดูแท็บเล็ต ที่หน่วยงานรัฐกำลังทดสอบ ก่อนที่จะคัดเลือกว่ารุ่นไหนเป็น One Tablet Per Child

วันนี้วันเด็ก เลยอดพูดถึงเรื่องโครงการรัฐบาลแจกแท็บเล็ตแก่นักเรียนเพื่อการศึกษา หรือ One Tablet Per Child ไม่ได้ ก็มีข่าวความคืบหน้าเล็กๆน้อยๆแต่ก็ต้องมีสักรุ่นที่น่าจะใช้เป็น One Tablet Per Child นี้ ซึ่งไม่รู้ว่าโครงการนี้จะเริ่มทันในช่วงปีการศึกษาหน้าหรือไม่ แต่เรามีโฉมหน้า Tablet ที่อยู่ในช่วงระหว่างทดสอบ
ทีม งานได้สอบถามกับหนึ่งในผู้ได้ทดสอบเครื่อง Tablet ซึ่งมีมากเป็นกองแบบนี้  และเท่าที่สังเกตุดูรูปภาพ สเปคส่วนใหญ่จะเป็นระบบปฎิบัติการ Android แล้วใช้โปรแกรมการศีกษาส่วนฮาร์ดแวร์ยังไม่สรุปออกมาเนื่องจากตอนนี้ทดสอบ หลายรุ่นมากราคาตั้งแต่ไม่ถึง 5000 บาท จนถึงราคามากกว่า 5000 บาท แต่ไม่ใช่รุ่นยอดนิยมอย่างพวก Galaxy Tab หรือ Motorola Xoom ซึ่งมีราคาแพง และไม่ใช่ iPad จาก Apple แน่นอน
มี บางรุ่นที่อาจพอมีข้อมูลในสเปคอย่าง ZTE Light Tab  หรือ HUAWEI MediaPAD  , Lenovo ก็มี และมีแบรนด์อื่นที่ไม่รู้จักก็มีให้ทดสอบ ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศจีน บางรุ่นก็มาพร้อม Android 3.X แต่ประเด็นที่น่าติดตามคือต้องโปรแกรมพวกการศึกษาที่จะลง Tablet พวกนี้โดยเฉพาะ ซึ่งไม่รู้หน้าตาชุดโปรแกรมที่ว่านี้จะเป็นซอฟต์แวร์ตัวไหน เหมาะสมกับเด็กไทยหรือไม่ ?
ภาพจาก Google+

แหล่งที่มา it24hr By  ปานระพี

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

เว็บไซต์ cnet ได้นำเสนอสถิติกราฟเปรียบเทียบการท่องอินเตอร์เน็ตผ่านทางช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางคอมพิวเตอร์ กับ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต หรือผ่านทางเครื่องเล่นเกมคอนโซล และช่องทางอื่นๆ ในช่วงตลอดปี 2011 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบแนวโน้มการใช้เว็บบราวเซอร์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและแท๊บเล็ต ในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ แต่ปีนี้ก็คาดว่ามีผู้ใช้มือถือสมาร์ทโฟนในการท่องเน็ตผ่านบราวเซอร์เพิ่มขึ้นอีก สำหรับสถิติแข่งขันด้านเว็บบราวเซอร์บนมือถือสมาร์ทโฟนยอดนิยมที่จะนำไปใช้ในการท่องเน็ต ปรากฏว่า safari ซึ่งเป็นเว็บบราวเซอร์ของระบบปฏิบัติการ iOS ใม่ว่าจะเป็น iPhone , iPod Touch ครองแชมป์ช่องทางด้านท่องเน็ตผ่านมือถือไปครอง รองลงมาก็เป็น Opera และบราวเซอร์บน android ตามลำดับ แต่เมื่อดูหลายๆเดือนแล้วจะพบว่าการท่องเน็ตผ่านมือถือสมาร์ทโฟนด้วย Safari และ Android จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่บราวเซอร์ Opera mini และ Symbian มีแนวโน้มจะลดลง ส่วนทางด้านสงครามเว็บบราวเซอร์ผ่านทางคอมพิวเตอร์นั้น หากชมสถิติล่าสุดผ่านเว็บไซต์ netmarketshare และเว็บไซต์ statcounter จะเห็นได้ว่ามีผู้ใช้ IE จำนวนลดลงจนขณะนี้ต่ำกว่า 40% แล้ว คาดว่าภายในปี 2012 นี้ IE จะมียอดผู้ใช้ลดลงอีก ในขณะที่ผู้ใช้ Chrome มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่อันดับที่ 2 แทนที่ Firefox แล้ว สงครามเว็บบราวเซอร์ปี 2012 นี้จะได้เห็น การเปลี่ยนแปลงมืออันดับ 1 อย่าง IE หรือไม่ ? เมื่อไหร่? …. ต้องจับตา ข้อมูลจาก Cnetสถิติการท่องเน็ตผ่านมือถือสมาร์ทโฟน มีแนวโน้มเติบโตขึ้น!!

เว็บ ไซต์ cnet ได้นำเสนอสถิติกราฟเปรียบเทียบการท่องอินเตอร์เน็ตผ่านทางช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางคอมพิวเตอร์  กับ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต หรือผ่านทางเครื่องเล่นเกมคอนโซล และช่องทางอื่นๆ ในช่วงตลอดปี 2011 ที่ผ่านมา  จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบแนวโน้มการใช้เว็บบราวเซอร์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและ แท๊บเล็ต ในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ แต่ปีนี้ก็คาดว่ามีผู้ใช้มือถือสมาร์ทโฟนในการท่องเน็ตผ่านบราวเซอร์เพิ่ม ขึ้นอีก
สำหรับ สถิติแข่งขันด้านเว็บบราวเซอร์บนมือถือสมาร์ทโฟนยอดนิยมที่จะนำไปใช้ใน การท่องเน็ต  ปรากฏว่า safari ซึ่งเป็นเว็บบราวเซอร์ของระบบปฏิบัติการ iOS ใม่ว่าจะเป็น iPhone , iPod Touch ครองแชมป์ช่องทางด้านท่องเน็ตผ่านมือถือไปครอง รองลงมาก็เป็น Opera และบราวเซอร์บน android ตามลำดับ แต่เมื่อดูหลายๆเดือนแล้วจะพบว่าการท่องเน็ตผ่านมือถือสมาร์ทโฟนด้วย  Safari และ Android  จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่บราวเซอร์ Opera mini และ Symbian มีแนวโน้มจะลดลง
ส่วนทางด้านสงครามเว็บบราวเซอร์ผ่านทางคอมพิวเตอร์นั้น หากชมสถิติล่าสุดผ่านเว็บไซต์ netmarketshare   และเว็บไซต์ statcounter จะ เห็นได้ว่ามีผู้ใช้ IE จำนวนลดลงจนขณะนี้ต่ำกว่า 40% แล้ว คาดว่าภายในปี 2012 นี้ IE จะมียอดผู้ใช้ลดลงอีก ในขณะที่ผู้ใช้ Chrome มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่อันดับที่ 2 แทนที่  Firefox แล้ว
สงครามเว็บบราวเซอร์ปี 2012 นี้จะได้เห็น การเปลี่ยนแปลงมืออันดับ 1 อย่าง IE หรือไม่ ?  เมื่อไหร่? …. ต้องจับตา
ข้อมูลจาก Cnet

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

"แลปทอป" ราคา 100 เหรียญฯ (3,000 บาท)

OLPC (One Laptop Per Child) องค์กรไม่หวังผลกำไรที่ตั้งเป้าพัฒนา "แลปทอป" ราคา 100 เหรียญฯ (3,000 บาท) ล่าสุดได้มาออกงาน CES 2012 ด้วยเช่นกัน โดยในครั้งนี้ ถือเป็นฤกษ์งามยามดีในการที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นั่นคือ XO 3.0 "แท็บเล็ต" ราคา 100 เหรียญฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนไม่น้อย โดยเฉพาะความสงสัยที่ว่า แล้วมันมีอะไรที่แตกต่างจากแท็บเล็ตทั่วไปบ้าง
ความ จริง XO 3.0 น่าจะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่ต้องเจอกับโรคเลื่อนเรื่อยมาจนได้โอกาสเปิดตัวสักทีในงาน CES 2012 ตามรายงานข่าวระบุว่า OLPC XO เป็น "แท็บเล็ต" ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS และใช้โพรเซสเซอร์ Marvell Armada PXA618 SoC หน่วยความจำ (RAM) 512MB หน้าจอแสดงผล PixelQi ขนาด 8 นิ้ว (สามารถมองเห็นหน้าจอภายใต้แสงธรรมชาติได้) ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล นอกจากจะใช้ Android แล้ว ยังมีเวอร์ชันที่ใช้ Sugar OS ที่ดัดแปลงมาจาก Linux อีกด้วย
และ เนื่องจาก XO 3.0  ออกแบบมา เพื่อให้ใช้งานได้ในทุกสถานที่ แม้ในที่กลางแจ้ง ทาง OLPC จึงได้ออกแบบฝาครอบ เพื่อป้องกันหน้าจอ แถมด้านในยังมีแผงโซล่าร์เซล เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้อีกด้วย ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB และ microUSB ช่องเสียบหูฟัง และไมค์ ส่วนช่องเสียบอะแดปเตอร์จะรองรับอุปกรณ์ชาร์จแบบที่มีแกนจับหมุนด้วยมือได้ อีกด้วย แน่นอนว่า XO 3.0 ไม่ใช่แท็บเล็ตที่บางที่สุด หรือเร็วที่สุด แต่ที่แน่ๆ มันน่าจะถูกที่สุด คาดว่าจะสามารถวางตลาดได้ในเดือนมีนาคม 2012


อาจจะมีใครหลายๆคนเฝ้ารอใช้อยู่ตอนนี้...อิอิอิ
เว็บไซต์ในข่าว: OLPC

10 อันดับหนังโหลด Bit ในปี 2011

ข้อมูล ดังกล่าวจัดทำโดยเว็บไซต์ TorrentFreak.com ได้รวบรวมสถิติเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ถูกดาวน์โหลดผ่าน Bit Torrent ซึ่งอันดับหนึ่งคือ Fast Five (Fast and Furious 5) โดยมีผู้ดาวน์โหลดไปแล้วทั้งสิ้น 9.3 ล้านครั้ง ในขณะที่ตัวหนังรั้งอันดับ 6 ทำรายได้จากบ๊อกซ์ออฟฟิศประมาณ 626 ล้านเหรียญฯ ส่วน Harry Potter and the Deathly Hallows Part 2 ที่สามารถทำรายได้จากโรงฉายทั่วโลก 1.3 พันล้านเหรียญฯ ติดอันดับ 10 ของภาพยนตร์ที่ถูกดาวน์โหลดบนเน็ต (ประมาณ 6 ล้านดาวน์โหลด)
หนัง ตลกภาคต่ออย่าง Hangover Part II มาแรงแซงโค้งด้วยยอดการโหลดผ่าน Bit Torrent ที่สูงถึง 8.8 ล้านครั้ง รั้งอันดับ 2 รองจาก Fast Five หนังฮีโร่ที่มาพร้อมกับค้อนอย่าง Thor ตามมาติดๆ เป็นอันดับ 3 ด้วยยอดโหลด 8.3 ล้านครั้ง ส่วน Soruce Code ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟที่แสดงโดย Jake Gylenhaal แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในโรงฉายมากเท่าที่ควร แต่กลับมียอดดาวน์โหลดบนเน็ตเป็นอันดับ 4 ด้วยจำนวนครั้งของการโหลดสูงถึง 7.9 ล้านเลยทีเดียว ประเด็นที่น่าสังเกตจาก 10 อันดับภาพยนตร์ที่ถูกดาวน์โหลดบนเน็ตมากทีสุดก็คือ รายชื่อหนังที่ถูกโหลดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในอันดับหนังฮิตของบล็อคบัสเตอร์ และหนังดังอย่าง Transformers: Dark of the Moon และ The Twilight Saga: Breaking Dwan ก็ไม่ติดอันดับท้อปเท็นนีด้วย สำหรับรายชื่อ 10 อันดับภาพยนตร์ที่ถูกดาวน์โหลดบนเน็ตที่นำมาฝากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip มีดังนี้ครับ
  1. Fast Five - 9.26 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 636.1 ล้านเหรียญฯ
  2. The Hangover II - 8.84 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 581.46 ล้านเหรียญ 
  3. Thor - 8.3 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 449.3 ล้านเหรียญฯ
  4. Source Code - 7.9 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 123.2 ล้านเหรียญฯ
  5. Number Four - 7.67 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 144.5 ล้านเหรียญฯ
  6. Sucker Punch - 7.2 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 89.79 ล้านเหรียญฯ
  7. 127 Hours - 6.9 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 60.7 ล้านเหรียญฯ
  8. Rango - 6.48 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 245.15 ล้านเหรียญฯ
  9. The King's Speech - 6.25 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 414.2 ล้านเหรียญฯ
  10. Harry Potter and the Deathly Hallows pt 2 - 6 ล้านดาวน์โหลด หนังทำรายได้ 1.3 พันล้านเหรียญฯ
เว็บไซต์ในข่าว: TorrentFreak

10 อันดับธุรกิจยน Fanpage

Com Setup ข่าวสาร IT คอมพิวเตอร์ เรานำมาเซ็ตอัฟให้คุณ

ทางเว็บไซต์ ZocialRank.com เว็บไซต์จัดอันดับการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ของประเทศไทย ประกาศผล 10 อันดับสูงสุดของแบรนด์และธุรกิจของประเทศไทย ในโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์  โดยอันดับ 1. ได้แก่ค่ายหนัง GTH 2. ค่ายหนังเครือเมเจอร์ซินิเพล็กซ์ 3. ค่ายหนัง เอสเอฟซินิม่า 4. กลุ่มบริษัท โออิชิ และ 5. เครื่องดื่มเป็ปซี่  เห็นได้ชัดว่าจากผลของอันดับ กลุ่มธุรกิจค่ายหนัง ถือเป็นกลุ่มที่มีการใช้กลยุทธ์และการตลาดผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์มากที่ สุด โดยทั้ง 1-3 อันดับล้วนเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับภาพยนต์ทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าในปี 2011 ที่ผ่าน เป็นปีที่เริ่มมีหลายธุรกิจและแบรนด์ของไทย เข้ามาใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิกร์อย่าง Facebook หรือ Twitter เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงคนไทยมากขึ้น โดยในปี 2011 ประเทศไทยมีคนใช้ Facebook สูงถึง 13 ล้านคน หรือคิดเป็น 20% ของประชากรไทยทั้งประเทศ มากเป็นอันดับ 16 ของโลกนี้ ซึ่งแนวโน้มการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ในปี 2012 จะมีการเปลี่ยนแปลงไป เพราะเริ่มมีบริการโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ใหม่ๆ เกิดขึ้น  อีกทั้งการบริการเหล่านี้เริ่มขยายเข้าไปยังบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการเปิดให้บริการ 3G อย่างเต็มที่ในประเทศไทย จะเป็นตัวกระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิรก์มากขึ้นอย่างมากในปี หน้า


อันดับ 1 ค่ายหนัง GTH ที่กวาดคะแนนกินขาด
อันดับ 2 โรงภาพยนต์ Major Cineplex
อันดับ 3 ก็ยังเป็นธุรกิจภาพยนต์ โรงภาพยนต์ SF Cinema
อันดับ 4 Oishi ของคุณตัน
อันดับ 5 เครื่องดื่ม Pepsi Thai
อันดับ 6 เครื่อข่ายมือถือ DTAC
อันดับ 7 มือถือยอดฮิตของยุค BlackBerry Thailand
อันดับ 8 Ensogo
อันดับ 9 95.5 Virgin Hitz คลื่นวิทยุของมหาชน
อันดับ 10 A Day Magazine แม็กกาซีนของวัยรุ่น


อันดับต้นๆๆก็ยังเป็นธุรกิจภาพยนต์


วิธีการวัดผลของการจัดอันดับ
เนื่องจากโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ที่คนไทยนิยมมากที่สุดในปี 2011 ได้แก่ Facebook และ Twitter เราจึงได้ทำการวัดผลด้วยวิธีการ นำตัวเลขของจำนวนคน “ชอบ (Likes)” และจำนวน “คนตาม (Follower)” ของธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ของประเทศไทย ที่จัดอันดับอยู่ในเว็บไซต์ www.ZocialRank.com มารวมกัน โดยเก็บข้อมูล ณ.เดือน ธันวาคม 2011 เพราะตัวเลขทั้งสองตัวถือเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึง จำนวนคนที่สนใจและติดตาม แบรนด์และธุรกิจผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ และยังสะท้อนถึงการ ใช้กลยุทธ์และกิจกรรมทางการตลาดผ่านทางช่องทางนี้อีกด้วย

** หมายเหตุ : การจัดอันดับครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้น จากทีมงานของ ZocialRank.com เป็นการวัดผลตามแนวความคิดของทีมงาน  โดยหลักการในการจัดอันดับ ได้มาจากข้อมูลที่เก็บได้จริง จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ในโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ เพื่อต้องการให้เกิดการกระตุ้นและการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับธุรกิจและประเทศ

 ข้อมูลจาก ZocialRank Blog

สรุป Facebook Page ไทย ยอดนิยม ประจำปี 2011

เว็บไซต์ ZocialRank ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับแฟนเพจและข้อมูลสถิติต่างๆที่เกี่ยวกับ facebook ไทย ได้สรุปภาพรวม facebook ประเทศไทยประจำปี 2011 มาเป็นข้อมูลภาพ Infographic ให้ชมกัน 

 จากข้อมูลมีคนไทยใช้ facebook  ทั้งสิ้น 13,276,200 ราย   มี Facebook Page ไทย ทั้งสิ้น 34,642  เพจ   มีคลิกถูกใจ ใน Facebook Page ไทย มีทั้งสิ้น  133,640,093 Like  โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในวัย 18-24 ปี (34%) รองลงมา วัย25-34 ปี (28.6%) 
โดย จากการจัดอันดับ Facebook Page ไทยเป็นหมวดหมู่ยอดนิยม  ปรากฏว่าประเภทหมวดวงดนตรี ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาเป็นหมวดสุขภาพ  , หมวดบันเทิง , หมวดอาหาร และหมวดการศึกษา ตามลำดับ
สำหรับ Facebook Page ไทย ที่ได้เป็นเพจที่ถูกใจ สูงสุดในแต่ละหมวดมีดังนี้
ประเภทวงดนตรี ได้แก่ Bodyslam
ประเภทเทคโนโลยี ได้แก่ Blackberry Thailand
ประเภทธุรกิจเครื่องดื่ม ได้แก่ Pepsi Thai
ประเภทรถยนต์ยานพาหนะ ได้แก่ Flone Society
ประเภทการเมือง ได้แก่ Abhisit Vejajiva
ประเภทธุรกิจไฟแนนซ์ ได้แก่ CIMB Thai
ประเภทบันเทิง ได้แก่ GTH
ประเภทแบรนด์กีฬา ได้แก่ นันยาง
สำหรับกลุ่ม คอมมิวนิตี้ที่โดนพูดถึงมากสุดได้แก่ สมาคมมุขเสี่ยวๆ
ข้อมูลจาก ZocialRank Blog

เชิญร่วมงาน Thailand Game Show 2012 ความสนุกครั้งใหญ่ ในดินแดนใหม่

ใกล้ แล้วสำหรับวันเด็กที่หน่วยงานต่างๆจะจัดทุกสัปดาห์ที่2 ของเดือนมกราคมในทุกๆปี แต่สำหรับงานวันเด็กที่เกี่ยวข้องกับโลกเทคโนโลยี ความบันเทิงที่สนุกสนาน โชว์ความล้ำทันสมัยในโลกแห่งเกม ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกทั้งครอบครัว และเป็นงานมหกรรมงานเกมที่ยิ่งใหญ่งานแรกแห่งปี  ที่จัดนานถึง 3วัน ก็จะนึกถึงงาน Thailand Game Show หรือ TGS2012 
งานมหกรรมวันเด็กเล่นเกม ครั้งที่ 6  หรืองาน Thailand Game Show 2012 เป็น งานแสดงวงการเกมทุกประเภททุกแนวระดับประเทศงานแรกแห่งปี งานนี้จัดเป็นประจำในช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์  ของสัปดาห์วันเด็กทุกปี  สำหรับในปีนี้จัดในรูปแบบคอนเซ็ปท์ “The New Land” ความสนุกครั้งใหญ่ ในดินแดนใหม่ โดย จะจัดงานบนสถานที่ใหม่ที่ต่างจากปีก่อนๆ  กว้างกว่าเดิม บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.เมตร ณ BITEC (ไบเทค  บางนา ) ในวันที่  13-14-15 มกราคม ที่จะถึงนี้
โดยภายในงาน Thailand Game Show 2012 มีไฮไลท์เด็ดของงานที่น่าสนใจ อาทิ
  • ค่ายเกมชั้นนำ  ตบเท้าเปิดตัวเกมใหม่ล่าสุดมากมาย
  • แข่งขันประชันเกมส์คอนโซลสุดมันใน Zone Zean Game
  • การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต  DotA  มีเกมเมอร์ทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมแข่งขัน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท
  • พบกับนิทรรศการเกมไทยสุดน่าทึ่งใน Thai Game Pavilion
  • Game Workshop ปฏิบัติการสร้างเกมได้ใน 3 วัน งานนี้สำหรับคนมีความฝันอยากเป็นคนสร้างเกม
  • พบกับขบวนพาเหรดตัวละคร เกมและการ์ตูนใน  TGS Cosplay Contest  บนพาเหรดแคทวอล์คที่ยาวที่สุด! ชิงเงินรางวัลรวม 340,000 บาท
  • การแข่งขันพร้อมการบรรยายสดจากนักพากย์ชื่อดัง อาทิ น้าติง ฮาร์ดคอร์ น้าต๋อย เซมเบ้ โทนคุง
  • พบคอสเพลย์ประจำงาน Thailand Game Show ใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก “โรห์ม&รัน”  และเจ้าหุ่นยนตร์ “มีฟ” ออกแบบโดย คุณสกาล ศรีสุวรรณ ศิลปินไทยแนวดิจิตอล เพ้นท์ติ้ง ผู้โด่งดังระดับโลก ที่มีผลงานการออกแบบทั้งเกม Front Mission Evolved ค่าย SQUARE ENIX ล่าสุดคือโปรเจค “Romeo and Juliet: The War” ที่ได้ร่วมงานกับ Stan Lee
และพบกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ที่ขนความสนุกสนาน ความมันส์ และมีสาระอีกเพียบ เช่น
  • วันแรก( ศุกร์ที่ 13 มกราคม นี้) จะมีพิธีเปิดที่ยิ่งใหญ่อลังการบนเวทีใหญ่ และหลังจากนั้นเวลา 12.30 น.เป็นต้นไป จะมีผู้บริหารค่ายเกม – ไอที จากทุกค่ายมาแสดงวิสัยทัศน์ เปิดโรดแม็ป และบริการใหม่ๆ ในรูปแบบ Keynote Presentation บนเวทีใหญ่ของงาน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รวบรวมผู้บริหารค่ายเกมและแบรนด์สินค้าไอทีชั้นนำร่วมตบ เท้าขึ้นแถลงการณ์ประจำปี เผยวิสัยทัศน์ และโปรเจคท์ใหม่ล่าสุดที่ทุกคนรอคอยที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้
  • การแข่งขันเกม Fruit Ninja Kinect บน เครื่อง Xbox360 ที่ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้ด้วยวิธีการออกท่าทางของร่างกายโดยไม่ต้องใช้ อุปกรณ์บังคับหรือสัมผัสหน้าจอ จับเกมยอดฮิตแห่งปีบนไอแพด “ฟรุตนินจา” มาเป็น “ฟรุตนินจา คินเน็คท์”
  •  พบกับ Game Concert ปลดปล่อยความมันส์ ด้วยคอนเสิร์ตพิเศษจากศิลปินในคอนเซ็ปท์เกม “Gancore Boyz 8 Bit Concert in The New Land” คอนเสิร์ตสุดพิสดารจาก “ก้านคอ บอยส์” กอดคอมาระเบิดความมันส์กันยกค่าย
  • และในช่วงวันสุดท้ายของงานจะมี งานประกาศรางวัล Thailand Game Prizes    15 รางวัลเกียรติยศแห่งวงการเกมไทย ที่ทุกคนในวงการเกมต้องลุ้นและจับตามอง
อย่า พลาด ขอเชิญทุกท่านมาร่วมความสนุกสนาน ที่สนุกได้ทั้งครอบครัว กับงานมหกรรมเกมระดับประเทศงานแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีได้ในงาน  Thailand Game Show 2012 วันที่ 13-14-15 มกราคม 2555 นี้ ณ BITEC บางนา (สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารและรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีบางนา) ติดตามรายละเอียดงานนี้ได้ทางเว็บไซต์ www.tgs.in.th